ซีรีส์ A Killer Paradox

หัวข้อแนะนำ

ซีรีส์ A Killer Paradox  ‘A Killer Paradox – Mask of Justice’ ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่จาก Netflix ที่มาพร้อมกับหนังระทึกขวัญ สืบสวน อาชญากรรม ดาร์กคอมเมดี้ และเนื้อหาสุดเข้มข้นของเรื่องเริ่มต้นจากความบังเอิญ แต่มันไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น เพราะพระเอกของเราบังเอิญฆ่า “ฆาตกร

 

ซีรีส์ A Killer Paradox เมื่อเขาพลั้งมือฆ่าเหตุวายป่วงก็ตามมาไม่หยุด

ซีรีส์ A Killer Paradox เรื่องย่อ: ‘A Killer Paradox’ บอกเล่าเรื่องราวของลีถัง (รับบทโดย ชเวอูชิก) นักเรียนหนุ่มที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยการทำงานพาร์ทไทม์ธรรมดาๆ ที่ร้านสะดวกซื้อ วันหนึ่งเขาบังเอิญฆ่าคนคนหนึ่ง แต่ปรากฏว่าเหยื่อที่เสียชีวิตคือฆาตกรที่ตำรวจตามหามานาน หลังจากนั้นเขาเริ่มมีความสามารถแปลกๆ เช่น สามารถจดจำคนที่ก่ออาชญากรรมได้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของบทบาทของเขาในฐานะผู้พิพากษาในเงามืด ในเวลาเดียวกัน การฆาตกรรมต่อเนื่องได้นำของนักสืบมากทักษะ จางนางกัม (รับบทโดยซนซอกกู) มีบทบาทในการตามล่าผู้กระทำความผิดในคดีฆาตกรรมครั้งนี้

‘A Killer Paradox’ เป็นการดัดแปลงเว็บตูนที่กำกับโดย Lee Chang Hee ซึ่งเคยทำงานในหนังระทึกขวัญแนวดาร์ก ‘Strangers From Hell – Hell is Other People‘ และผู้เขียนบท Kim Dami ซีรีส์นี้นำเสนอเรื่องราวที่มืดมนและเข้มข้น และยังก่อให้เกิดคำถามที่ชัดเจนเกี่ยวกับเส้นบางๆ ระหว่างผู้ร้ายกับฮีโร่ กฎหมายกับศาลเตี้ย รวมถึงการลงโทษอาชญากรที่ก่ออาชญากรรมแต่ปัจจุบันกลับใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ

 

ชเวอูซิกรับบทเป็นลีทัง ชายหนุ่มที่เคยคิดว่าชีวิตของเขาเรียบง่าย บางครั้งก็ง่ายเกินไป เขาเคยคิดอยากจะไปทำงานต่างประเทศ อยากไปแคนาดา อยากไปเที่ยวเทือกเขาร็อกกี้ แต่ความจริงก็คือชีวิตที่ต้องสลับระหว่างเรียนกับทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านสะดวกซื้อ อาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆโทรมๆ วันดีๆ ก็ต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าที่มาซื้อของในร้าน

อยู่มาวันหนึ่ง ชีวิตปกติของ Yi Tang เปลี่ยนไปกลับตาลปัตร เมื่อบุคคลถูกโจมตีและเลือกตอบโต้และทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิต แต่ปรากฏว่าผู้นั้นคือฆาตกรที่ตำรวจตามล่ามานาน หลังจากวันนั้น เขามีความสามารถพิเศษแปลกๆ เช่น ลางสังหรณ์หรือความรู้สึกที่ช่วยให้เขารับรู้ว่าใครเป็นคนไม่ดีหรือคนที่เคยทำเรื่องเลวร้ายมาก่อน ซึ่งทำให้เขาต้องตามล่าฆ่าคนเหล่านั้น จนกลายเป็นผู้ต้องสงสัยและต่อมาถูกตำรวจผู้ชำนาญการอย่างจังงางามตามล่า

 

ชเวอูชิกทำให้เราคุ้นเคยกับภาพยนตร์เรื่อง ‘Parasite’ และ ‘Train to Busan’ ในซีรีส์นี้เขารับบทเป็นชายหนุ่มที่สิ้นหวังอย่างสิ้นเชิง ใช้ชีวิตไปวันๆ ที่ผ่านมาเคยโดนรังแกบ้างไหม? แต่เวลาเจอเรื่องแย่ๆ มักจะรอดมาไม่ขาดสายจนรู้สึกโชคดีอย่างน่าประหลาด ความโชคดีหรือสิ่งที่เรียกว่าความบังเอิญนี้มีมาจนถึงปัจจุบัน ชเวอูชิกแสดงตัวละครของลีทังในลักษณะที่อ่อนโยน สงบ และลึกซึ้ง ทำให้เรามองเห็นความสับสนวุ่นวายภายในของเขา ทั้งด้านที่เย็นชาและไม่แยแสต่อโลกและด้านที่อ่อนแอและเปราะบาง สำหรับอารมณ์ที่ปะทุออกมานั้นดูรุนแรงมาก ทำให้สามารถเข้าใจและเข้าใจพัฒนาการของตัวละครได้เป็นอย่างดี

ครึ่งแรกของการเล่าเรื่องยังคงเป็นช่วงเวลาที่ Li Tang ยังคงสับสนและไม่สามารถยอมรับการกระทำของเขาได้ วิธีการเล่าเรื่องจะสลับระหว่างปัจจุบัน อดีต และความคิดในหัวของพระเอก ณ จุดนี้ หากคุณไม่มีสมาธิในการรับชม อาจสร้างความสับสนและสับสนได้ในบางครั้ง แต่มันก็สนุก ตื่นเต้น และเร้าใจอยู่เสมอ และถึงแม้ฉากแอคชั่นจะมีน้อย แต่ก็มีฉากรุนแรงบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ว่าจะเป็นฉากฆาตกรรม เลือด และยังมีฉาก 18+ ฉากที่ต้องระวังนิดนึงหากดูกับครอบครัว เพราะเข้ามาดูเต็มๆ แต่ครึ่งหลังความตื่นเต้นเริ่มจางหายไป มันถูกแทนที่ด้วยความอ่อนล้าและการยืดเยื้อ บางประเด็นที่อาจกระชับใช้เวลานานเกินไปในการทำ และมีตัวละครใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ซึ่งดึงความสนใจจากตัวละครหลักได้ไม่น้อย แต่เข้าใจว่าเป็นการเพิ่มตัวละครเข้าไปทำให้เรื่องน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นและตั้งคำถามกับตัวละครหลักของเรื่องทั้งลีถังและตำรวจที่เชื่อว่ากำลังตามล่าอาชญากรภายใต้ระบบยุติธรรมมาโดยตลอด ราชินี

เรื่องน่าสนใจและประเด็นที่ไม่ได้พูดคุยกันตรงๆ แต่ซีรีส์ ‘A Killer Paradox’ บอกเราแบบอ้อมๆ ผ่านมาหลายตอนแล้วทำไมพระเอกถึงได้ความสามารถนี้มา? พระเจ้าต้องการให้เขาเล่นบทบาทฮีโร่จริง ๆ หรือไม่? เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นและ Lee Tang สามารถหลบหนีการจับกุมได้หลายครั้ง ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องบังเอิญ โชค หรือแผนการของพระเจ้า? ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการตีความของคนดูเช่นเรา

 

สรุป

ซีรีส์ A Killer Paradox‘ เป็นซีรีส์อาชญากรรมระทึกขวัญ เนื้อหาเข้มข้น ปมของเรื่องชัดเจน ทั้งตั้งคำถามเรื่องล้อเกวียนเพื่อความยุติธรรมที่ถือเกวียน และทุกการกระทำย่อมมีผลที่ตามมาเสมอ แม้แต่ตัวยี่ถังเองก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาจากการเลือกของเขา การเล่าเรื่องอาจจะไม่ลื่นไหลมากนัก มีบางช่วงเวลาที่ง่วงนอน แต่สามารถกระตุ้นให้เราอยากรู้อยากเห็นดูจนจบได้อย่างง่ายดาย เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่คนชอบความจริงจังและเนื้อหาเข้มข้นไม่ควรพลาด ที่สำคัญซีรีย์นี้มีพากย์ไทยทั้งหมด 8 ตอนด้วย

 

บทความแนะนำ